หลังจากได้สัมผัสกับการขับรถเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก...เราคิดว่าฮอกไกโดเป็นที่ที่เหมาะกับการหัดขับรถเป็นครั้งแรกมากๆ ค่ะ
รถน้อย คนไม่พลุกพล่าน ที่จอดรถสะดวก และด้วยความที่สถานที่ท่องเที่ยวอยู่กระจัดกระจายกันตามเมืองต่างๆ ถ้าอาศัยรถไฟหรือรถบัสคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ที่สำคัญจะเสียเวลาเดินทางมาก การเช่ารถขับจึงเป็นอะไรที่เหมาะมากๆค่ะ
เราจัดเวลาเที่ยวฮอกไกโดไว้ 5 วันเต็มๆ แต่สถานที่ที่อยากไปอยู่ในหลายเมือง เราจึงตัดสินใจขับรถเที่ยวกันค่ะ และก็ตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆ ชิลมากๆ ฟินสุดๆ สะดวกสุดๆ ไปเลยจ้า 👍
เราเที่ยวฮอกไกโด 18-23 พฤษภาคม 2017
เช่ารถจาก New Chitose Airport วันที่ 18 ช่วงสายๆ และคืนรถที่เมือง Sapporo วันที่ 22 สายๆ หลังจากนั้นเข้าเมืองใหญ่ก็เดินทางด้วยรถไฟสะดวกกว่าขับรถค่ะ
บริษัทรถเช่านั้นมีมากมายก่ายกอง เช่น
Nippon Rent-a-Car, JR Rent-A-Car(Ekiren), Toyota, Timescar, Orix
และก็มีเว็บ Tocoo! เป็นเว็บรวมรถเช่าจากหลายๆ บริษัทค่ะ
เปรียบเทียบราคาแล้วเราตัดสินใจเลือก Nippon Rent-a-Car ค่ะ ราคาถูก มีคูปองส่วนลดด้วย และก็มีสาขาเยอะดี
ขั้นตอนแรก เราต้องทำการจองผ่านเว็บไซต์ก่อนค่ะ https://www.nrgroup-global.com/en/
ที่สำคัญอย่าลืมดูโปรโมชั่นด้วยนะคะ ตอนที่เราจองเมื่อปีที่แล้วมีโปรโมชั่นสมัครสมาชิกแล้วจะได้คูปองส่วนลด 5%
แต่ตอนนี้!! สมัครสมาชิกแล้วจะได้คูปองส่วนลด 10% กันเลยค่ะ
เวลาหาโค้ดก็ Login แล้วเข้าไปที่ My Account ก็จะขึ้นคูปองส่วนลดที่เราสามารถใช้ได้ ได้โค้ดแล้วก็เอาไปกรอกตอนจองรถได้เลย แฮปปี้ 😍
ตอนจองต้องใส่บัตรเครดิตด้วยนะคะ แต่จะไม่หักเงินค่าเช่าจากบัตร จ่ายเงินจริงๆ ตอนรับรถค่ะ
จองเสร็จแล้วจะได้ voucher แบบในรูปมา ก็ให้ปริ้นไปยืื่นตอนรับรถด้วยนะคะ
เมื่อเราเดินทางมาถึง New Chitose Airport แล้ว ถ้าบินตรงมา เราจะอยู่ที่ ชั้น 2 ของ International Terminal ให้เดินเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาก็ได้ค่ะ จะมีบันไดเลื่อนลงไปชั้น 1 (แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะมีลิฟท์ด้วยนะคะ)
ถึงชั้น 1 แล้ว ให้เดินไปตรงกลางอาคาร จะเจอ Transportation information counter ยื่นเอกสารการจองรถเช่าที่นั่นเลยค่ะ เจ้าหน้าที่จะติดต่อบริษัทรถเช่าให้ส่งรถมารับเราไปที่ออฟฟิศของบริษัทนั้นๆ นั่งรอประมาณ 20 - 30 นาทีก็จะมีรถมารับค่ะ
นั่งรถ 10 นาที ก็ถึงออฟฟิศรถเช่า เราก็ยื่นเอกสาร, พาสปอร์ต, ใบขับขี่สากล เค้าจะขอนำไปถ่ายเอกสาร แล้วก็จะอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้ฟัง เป็นภาษาอังกฤษ (เจ้าหน้าที่พูดไม่คล่องมากนะคะ แต่ก็สื่อสารกันรู้เรื่องค่ะ) ถึงขั้นตอนนี้ถ้าใครขับรถเที่ยวไกลๆ และอยากขึ้นทางด่วนแบบประหยัดเงิน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอซื้อ Hokkaido Express Pass (HEP) ซึ่งเราจะเสียค่าทางด่วนแบบเหมาจ่ายตามจำนวนวันที่เราเช่ารถ แต่การจะซื้อ HEP ได้เราต้องเช่า ETC Card ด้วยนะคะ เวลาผ่านด่านก็ขับเข้าช่อง ETC ได้เลย (เหมือน Easypass บ้านเราอ่ะค่ะ)
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hokkaido Express Pass ได้ที่
http://www.driveplaza.com/trip/drawari/hokkaido_expass/en.html
หลังจากนั้นเค้าจะเสนอให้เราซื้อ Extra Coverage Option (ECO) ราคา 432 yen/day ประมาณว่าถ้ารถเราเกิดอุบัติเหตุ นอกจากค่าซ่อมแซมแล้ว จะมีการคิดค่าเสียโอกาส ที่เรียกว่า Non-Operation Charge (NOC) 20,000 - 50,000 yen ซึ่งถ้าเราซื้อ ECO ไว้แล้วรถเกิดอุบัติเหตุเราก็จะไม่ต้องเสีย NOC ค่ะ อ่ะเพิ่มอีกวันละร้อยกว่าบาท เพื่อความสบายใจก็เลยโอเคซื้อค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาจ่ายเงิน เลขที่ออก... 20,012 + (432x4) + 6,200 = 27,940 yen
หลังจากนั้นเค้าก็จะให้เราตรวจเช็ครถ ให้คำแนะนำในการใช้รถ และสอนวิธีใช้ GPS
แล้วก็ให้ Hokkaido Road Map มา 1 เล่ม ด้านในก็จะมี คูปองส่วนลด, Mapcode, แผนที่เมืองต่างๆ, คู่มือการขับรถคร่าวๆ และตารางคำนวณค่าทางด่วน
ส่วนในรถจะมีแฟ้มอีก 1 เล่ม มีเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ อยู่ในนั้นค่ะ
ของเราตอนรับรถมีปัญหานิดนึง คือ เราจองรถคลาส K-A ไว้ เป็นรถ Daihatsu Move เครื่อง 660cc กะว่าจะได้ช่วยประหยัดค่าน้ำมันซักหน่อย แต่เค้าบอกว่ารถรุ่นนี้ไม่มีตัวเสียบ ETC Card เค้าเลยอัพเกรดให้เป็นรถ Toyota Vitz ที่ค่าเช่าแพงกว่านิดหน่อย แต่ไม่คิดเงินเพิ่ม
คุณสามีเป็นแฟนรถ Daihatsu เลยแอบเซ็งเล็กน้อย อดขับรถแบรนด์โปรด ได้ขับโตโยต้าสีส้มแปร๊ดแทน
รถไซส์นี้เหมาะสำหรับคน 2 คน + กระเป๋าเดินทางนะคะ ถ้าผู้โดยสารมากกว่านี้คงอึดอัด เรานั่งด้านหน้า 2 คน พับเบาะหลังลง แล้ววางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 ใบ ใบเล็ก 1 ใบ ได้แบบสบายๆ แค่นี้กำลังเหมาะเลยค่ะ
เมื่อถึงเวลาคืนรถ เราต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนคืนรถนะคะ บางสาขาของ Nippon Rent-a-car จะมีปั๊มน้ำมันบริการอยู่ด้วยค่ะ เช่นสาขา Sapporo Station North Exit ที่เราใช้บริการ สะดวกดีไม่ต้องเสียเวลาหาปั๊ม
ตอนคืนรถก็ไม่มีอะไรมาก ขับรถเข้าไปจอด แล้วลงไปนั่งรอในออฟฟิศ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจเช็ครถ เสร็จแล้วก็จะเรียกเราไปจ่ายเงินส่วนต่างค่ะ ของเราก็จ่ายค่าน้ำมันอย่างเดียว แต่ถ้าคืนรถช้ากว่าเวลาที่ระบุไว้ตอนจอง ก็จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม
จบแล้วจ้าสำหรับประสบการณ์การเช่ารถขับครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ขอบอกว่าหลงตั้งแต่ออกจากออฟฟิศรถเช่าเลย 😂😂 แบบว่าไม่ชินกับการดูแผนที่ใน GPS ติดรถ พอจะต้องเลี้ยว อ้าวคุณสามีขับเลยแยกไปแล้ว ก็ต้องวนกันไปค่ะ โชคดีที่หลงแค่นิดๆ พอเริ่มชินกับ GPS ก็ไม่หลงแล้วจ้า
เดี๋ยวบล็อกหน้าจะพาไปขับรถเที่ยวกันนะคะ 😊
รถน้อย คนไม่พลุกพล่าน ที่จอดรถสะดวก และด้วยความที่สถานที่ท่องเที่ยวอยู่กระจัดกระจายกันตามเมืองต่างๆ ถ้าอาศัยรถไฟหรือรถบัสคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ที่สำคัญจะเสียเวลาเดินทางมาก การเช่ารถขับจึงเป็นอะไรที่เหมาะมากๆค่ะ
เราจัดเวลาเที่ยวฮอกไกโดไว้ 5 วันเต็มๆ แต่สถานที่ที่อยากไปอยู่ในหลายเมือง เราจึงตัดสินใจขับรถเที่ยวกันค่ะ และก็ตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆ ชิลมากๆ ฟินสุดๆ สะดวกสุดๆ ไปเลยจ้า 👍
เราเที่ยวฮอกไกโด 18-23 พฤษภาคม 2017
เช่ารถจาก New Chitose Airport วันที่ 18 ช่วงสายๆ และคืนรถที่เมือง Sapporo วันที่ 22 สายๆ หลังจากนั้นเข้าเมืองใหญ่ก็เดินทางด้วยรถไฟสะดวกกว่าขับรถค่ะ
บริษัทรถเช่านั้นมีมากมายก่ายกอง เช่น
Nippon Rent-a-Car, JR Rent-A-Car(Ekiren), Toyota, Timescar, Orix
และก็มีเว็บ Tocoo! เป็นเว็บรวมรถเช่าจากหลายๆ บริษัทค่ะ
เปรียบเทียบราคาแล้วเราตัดสินใจเลือก Nippon Rent-a-Car ค่ะ ราคาถูก มีคูปองส่วนลดด้วย และก็มีสาขาเยอะดี
ขั้นตอนแรก เราต้องทำการจองผ่านเว็บไซต์ก่อนค่ะ https://www.nrgroup-global.com/en/
แต่ตอนนี้!! สมัครสมาชิกแล้วจะได้คูปองส่วนลด 10% กันเลยค่ะ
เวลาหาโค้ดก็ Login แล้วเข้าไปที่ My Account ก็จะขึ้นคูปองส่วนลดที่เราสามารถใช้ได้ ได้โค้ดแล้วก็เอาไปกรอกตอนจองรถได้เลย แฮปปี้ 😍
จองเสร็จแล้วจะได้ voucher แบบในรูปมา ก็ให้ปริ้นไปยืื่นตอนรับรถด้วยนะคะ
เมื่อเราเดินทางมาถึง New Chitose Airport แล้ว ถ้าบินตรงมา เราจะอยู่ที่ ชั้น 2 ของ International Terminal ให้เดินเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาก็ได้ค่ะ จะมีบันไดเลื่อนลงไปชั้น 1 (แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะมีลิฟท์ด้วยนะคะ)
ถึงชั้น 1 แล้ว ให้เดินไปตรงกลางอาคาร จะเจอ Transportation information counter ยื่นเอกสารการจองรถเช่าที่นั่นเลยค่ะ เจ้าหน้าที่จะติดต่อบริษัทรถเช่าให้ส่งรถมารับเราไปที่ออฟฟิศของบริษัทนั้นๆ นั่งรอประมาณ 20 - 30 นาทีก็จะมีรถมารับค่ะ
นั่งรถ 10 นาที ก็ถึงออฟฟิศรถเช่า เราก็ยื่นเอกสาร, พาสปอร์ต, ใบขับขี่สากล เค้าจะขอนำไปถ่ายเอกสาร แล้วก็จะอธิบายรายละเอียดต่างๆ ให้ฟัง เป็นภาษาอังกฤษ (เจ้าหน้าที่พูดไม่คล่องมากนะคะ แต่ก็สื่อสารกันรู้เรื่องค่ะ) ถึงขั้นตอนนี้ถ้าใครขับรถเที่ยวไกลๆ และอยากขึ้นทางด่วนแบบประหยัดเงิน ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอซื้อ Hokkaido Express Pass (HEP) ซึ่งเราจะเสียค่าทางด่วนแบบเหมาจ่ายตามจำนวนวันที่เราเช่ารถ แต่การจะซื้อ HEP ได้เราต้องเช่า ETC Card ด้วยนะคะ เวลาผ่านด่านก็ขับเข้าช่อง ETC ได้เลย (เหมือน Easypass บ้านเราอ่ะค่ะ)
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Hokkaido Express Pass ได้ที่
http://www.driveplaza.com/trip/drawari/hokkaido_expass/en.html
หลังจากนั้นเค้าจะเสนอให้เราซื้อ Extra Coverage Option (ECO) ราคา 432 yen/day ประมาณว่าถ้ารถเราเกิดอุบัติเหตุ นอกจากค่าซ่อมแซมแล้ว จะมีการคิดค่าเสียโอกาส ที่เรียกว่า Non-Operation Charge (NOC) 20,000 - 50,000 yen ซึ่งถ้าเราซื้อ ECO ไว้แล้วรถเกิดอุบัติเหตุเราก็จะไม่ต้องเสีย NOC ค่ะ อ่ะเพิ่มอีกวันละร้อยกว่าบาท เพื่อความสบายใจก็เลยโอเคซื้อค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาจ่ายเงิน เลขที่ออก... 20,012 + (432x4) + 6,200 = 27,940 yen
หลังจากนั้นเค้าก็จะให้เราตรวจเช็ครถ ให้คำแนะนำในการใช้รถ และสอนวิธีใช้ GPS
แล้วก็ให้ Hokkaido Road Map มา 1 เล่ม ด้านในก็จะมี คูปองส่วนลด, Mapcode, แผนที่เมืองต่างๆ, คู่มือการขับรถคร่าวๆ และตารางคำนวณค่าทางด่วน
ส่วนในรถจะมีแฟ้มอีก 1 เล่ม มีเบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ อยู่ในนั้นค่ะ
ของเราตอนรับรถมีปัญหานิดนึง คือ เราจองรถคลาส K-A ไว้ เป็นรถ Daihatsu Move เครื่อง 660cc กะว่าจะได้ช่วยประหยัดค่าน้ำมันซักหน่อย แต่เค้าบอกว่ารถรุ่นนี้ไม่มีตัวเสียบ ETC Card เค้าเลยอัพเกรดให้เป็นรถ Toyota Vitz ที่ค่าเช่าแพงกว่านิดหน่อย แต่ไม่คิดเงินเพิ่ม
คุณสามีเป็นแฟนรถ Daihatsu เลยแอบเซ็งเล็กน้อย อดขับรถแบรนด์โปรด ได้ขับโตโยต้าสีส้มแปร๊ดแทน
รถไซส์นี้เหมาะสำหรับคน 2 คน + กระเป๋าเดินทางนะคะ ถ้าผู้โดยสารมากกว่านี้คงอึดอัด เรานั่งด้านหน้า 2 คน พับเบาะหลังลง แล้ววางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 ใบ ใบเล็ก 1 ใบ ได้แบบสบายๆ แค่นี้กำลังเหมาะเลยค่ะ
เมื่อถึงเวลาคืนรถ เราต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนคืนรถนะคะ บางสาขาของ Nippon Rent-a-car จะมีปั๊มน้ำมันบริการอยู่ด้วยค่ะ เช่นสาขา Sapporo Station North Exit ที่เราใช้บริการ สะดวกดีไม่ต้องเสียเวลาหาปั๊ม
ตอนคืนรถก็ไม่มีอะไรมาก ขับรถเข้าไปจอด แล้วลงไปนั่งรอในออฟฟิศ เจ้าหน้าที่ก็จะทำการตรวจเช็ครถ เสร็จแล้วก็จะเรียกเราไปจ่ายเงินส่วนต่างค่ะ ของเราก็จ่ายค่าน้ำมันอย่างเดียว แต่ถ้าคืนรถช้ากว่าเวลาที่ระบุไว้ตอนจอง ก็จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม
จบแล้วจ้าสำหรับประสบการณ์การเช่ารถขับครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ขอบอกว่าหลงตั้งแต่ออกจากออฟฟิศรถเช่าเลย 😂😂 แบบว่าไม่ชินกับการดูแผนที่ใน GPS ติดรถ พอจะต้องเลี้ยว อ้าวคุณสามีขับเลยแยกไปแล้ว ก็ต้องวนกันไปค่ะ โชคดีที่หลงแค่นิดๆ พอเริ่มชินกับ GPS ก็ไม่หลงแล้วจ้า
เดี๋ยวบล็อกหน้าจะพาไปขับรถเที่ยวกันนะคะ 😊
ᐈ Top casino site, get free bonuses for real
ตอบลบThe most popular online casino sites for real money 2021/2022: 카지노사이트luckclub Baccarat, Blackjack, Roulette, Slots, Roulette, Video Poker, Slots,